เปิดบ้านจักรพงษ์ ริมน้ำเจ้าพระยา อายุกว่า 100 ปี จากต้นราชสกุล จักรพงษ์
ที่มาของบทความ : http://home.sanook.com/8465/
คุณแม่จะนั่งทานอาหารเช้าที่ระเบียงข้างบน ในทุกๆ เช้าเราจะไปร่วมทานอาหารเช้าด้วยกันก่อนไปโรงเรียน ซึ่งคุณแม่จะมีหนังสือพิมพ์ที่ส่งมาสมัยนั้นเป็นกระดาษแอร์เมล์ ซึ่งมันจะบางมาก และยังมีเสียงก๊อบแก๊บๆ
โดยคุณหญิงสา ม.ร.ว.นริศรา จักรพงษ์ ผู้เป็นเจ้าของบ้านจักรพงษ์คนปัจจุบันได้เล่าย้อนถึงความทรงจำวัยเด็กที่มีร่วมกับคุณแม่ หรือ หม่อมเอลิซาเบธในบ้านหลังนี้
สำหรับบ้านจักรพงษ์นี้มีอายุถึงปัจจุบันกว่า 100 ปี และเป็นบ้านที่ถูกสร้างขึ้นโดย ต้นราชสกุลจักรพงษ์ จอมพล สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ หากแต่ว่าท่านมิได้ประทับอยู่ ณ บ้านหลังนี้ เมื่อทรงเสด็จทิวงคต บ้านหลังนี้จึงได้ตกเป็นของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ และได้ทรงอภิเสกสมรสกับ หม่อมเอลิซาเบธ ชาวอังกฤษ ทรงมีพระธิดาคนเดียวคือคุณหญิงสา หรือคุณแม่ของ ฮิวโก้ หรือ เล็ก - จุลจักร จักรพงษ์ ศิลปินดารามีชื่อ
โดยรูปแบบสถาปัตยกรรมของบ้านจักรพงษ์นั้นเป็นสไตล์อิตาลี ตั้งอยู่บนพื้นที่มากกว่า 2 ไร่ ( แต่ว่าปัจจุบันเหลือพื้นที่ทั้งหมด 2 ไร่ เนื่องจากมีการแบ่งขายที่ดินของบ้านไปก่อนหน้านั้นแล้ว ) และตัวอาคารมี 3 ชั้น ด้านบนเป็นหอคอย ซึ่งจะใช้เป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิ
- พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ
- สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพระพันปีหลวง
- จอมพล สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์
- หม่อมเอลิซาเบธ
โดยคุณหญิงสาจะต้องขึ้นไปกราบไหว้สักการะทุกครั้งเมื่อตนเองจะเดินทางออกจากบ้านหลังนี้ไปที่ใดที่หนึ่งสักแห่ง
สำหรับบ้านจักรพงษ์ในอดีตนั้นไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างที่เห็นนี้ แม้บ้านจะดูเหมือนใหญ่ เพราะสมัยก่อนนิยมสร้างบ้านเพดานสูงเพื่อให้ลมถ่ายเท แต่ว่าจริงๆ แล้วก็ยังมีห้องนอนเพียงแค่ 4 ห้องเท่านั้น โถงรับแขกที่เรานั่งอยู่เมื่อก่อนเป็นห้องเปิดโล่ง มันร้อน ยุงบินเต็มห้องไปหมด และก็ยังมีเสียงเรือดังมากเสียจนได้ยินมาถึงในบ้าน ไม่มีส่วนให้นั่งเล่น ในสมัยเด็ก ก็ไม่ได้เป็นที่ๆ คนนิยม หรือเห็นคุณค่าเท่าไรนัก ตอนอยู่โรงเรียนเพื่อนๆ จะอยู่สุขุมวิท เขาจะเห็นว่าเราน่าสงสารที่อยู่ปากคลองตลาด และเพิ่งมาช่วงหลังที่บูมขึ้นมา
และหลังจากที่คุณหญิงเดินทางกลับมาจากประเทศอังกฤษจึงเกิดความคิดเรื่องซ่อมแซม ปรับปรุงบ้านหลังนี้เสียใหม่ เนื่องจากโครงสร้างเดิมของอาคารและพื้นห้องยังใช้ได้ ดังนั้นจึงได้มีการเพิ่มเติมส่วนต่างๆ ของบ้านก็ไม่มากนัก จะมีก็แต่เพียง การนำของตกแต่งที่เคยถูกเก็บไว้ในห้องใต้ดินนั้นออกมาใช้ประดับเพิ่มเติม ร่วมไปพร้อมกับการ ซื้อหาของเก่าแก่ ที่เธอชื่นชอบเพื่อเข้ามาเพิ่มบรรยากาศภายในบ้าน
ตรงพื้นกระเบื้อง พื้นไม้ ประตู โครงสร้างหลักๆ ของในบ้านหลังนี้สวยอยู่แล้ว เราจึงไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย แต่ว่าสิ่งที่ไม่ดีก็ คือพวกสายไฟ ท่อน้ำที่ผุ เวลาเราต่อเติมแค่เฉลียงให้ยื่นออกไปตรงสวนนอกบ้าน ตรงกำแพงด้านทางขึ้นก็จะเอาออก เพื่อจะให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้น ส่วนของตกแต่งเป็นของเก่าแก่จาก รุ่นคุณปู่ , รุ่นคุณพ่อ , ที่ได้เก็บไว้ในห้องใต้ดิน เช่น พวกเครื่องมุก ถ้วยชามเบญจรงค์ แต่ว่าก็ซื้อของเก่าเพิ่มมาบ้าง เลยชอบสไตล์ผสมผสาน บางคนเห็นว่ายุ่งเหยิงเกินไป แต่ว่าเราอยากทำให้บ้านเหมือนวังปารุสก์ที่เคยเห็นในรูป ตรงผนังบ้านจะติดรูปเยอะมาก ทั้งยังมีรูปปั้นม้า ที่ทูลหม่อมปู่ได้ทรงตอนอยู่รัสเซีย เราก็เลยเอาของพวกนี้ขึ้นมา
ในปัจจุบันบ้านหลังนี้จึงมีห้องโถงด้านหน้าใช้สำหรับนั่งเล่น การพูดคุยกันระหว่างคนภายในครอบครัว หรือ ใช้ต้อนรับแขกที่มาแบบไม่เป็นทางการมากนัก สำหรับในห้องแดง เราก็ใช้สำหรับต้อนรับแขกผู้ใหญ่ที่อาจจะดูเป็นทางการขึ้นมาหน่อย โดยในบริเวณติดๆ กันยังมีห้องรับประทานอาหาร และก็ยังมีห้องทรงพระอักษรใน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ส่วนทางด้านบนนั้นจะมีห้องนอนอีก 4 ห้อง และตรงชั้นสามของอาคารกำลังจะถูกปรับเป็นออฟฟิศ ไว้สำหรับการทำงานหนังสือของคุณหญิงสา และค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมาก
สำหรับความทรงจำต่อบ้านหลังนี้ดิฉันว่ามันคือบ้านเกิดของดิฉัน แรกเริ่มเดิมที เราก็มีความคิดในสมองว่าเป็นบ้านหลังนี้ และ เราก็ยังงผูกพันกับบ้านหลังนี้ เพราะว่าเราตกแต่ง ปรับเปลี่ยนบ้านหลังนี้ด้วยตัวเอง สำหรับดิฉันแล้วที่นี่คือ บ้าน เป็นสถานที่ ที่ทำให้เรารู้สึกอบอุ่น และปลอดภัย มันมีความผูกพันถึงพ่อแม่ และหวังว่าลูกหลานจะรักษาต่อไป
นับจากวันนั้น วันเวลาก็ผ่านล่วงเลยกว่า 100 ปีที่หมุนผ่านไป ทำให้ บ้านจักรพงษ์ เป็นบ้านที่เต็มไปด้วยเรื่องราวหลากหลายมิติ โดยในด้านของสถาปัตยกรรมที่มีความงดงาม และยังมีประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละยุคสมัย ความรัก การจากพราก ล้วนเกิดขึ้นภายในบ้านหลังนี้
และไม่ใช่โอกาสที่เกิดขึ้นบ่อยนักที่เราจะได้ชื่นชมความสวยงามของบ้านไปพร้อมๆ กับความทรงจำจากการบอกเล่าของเจ้าของบ้านตัวจริง เพราะว่าในเทศกาลบางกอกแหวกแนว หรือที่ Bangkokedge Festival ที่จะจัดขึ้นภายในวันที่ 13 - 14 กุมภาพันธ์ 2559 นี้
ทางบ้านจักรพงษ์ยินดีต้อนรับการเข้าเยี่ยมชมของผู้เข้าร่วมงานทุกท่าน ไปพร้อมๆ กับการจิบไวน์ นั่งพักผ่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยผู้ที่สนใจจะต้องซื้อบัตร Chill Pass ราคา 500 บาท สำหรับใช้ 2 วัน ซึ่งสามารถลงทะเบียนออนไลน์ ล่วงหน้าได้เพียง 100 ท่านต่อวันที่ http://www.bangkokedge.com หรือ https://www.facebook.com/bangkokedge
ติดตามข่าว หรือ ไอเดียตกแต่งบ้านใหม่ คอนโดใหม่แต่งครบ ทำเลทอง ได้ที่ https://www.facebook.com/homecondos/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น