รวมวิธีไล่หนูออกจากบ้านหรือคอนโด ง่ายๆ ที่คุณก็ทำเองได้
วันนี้ blog ตกแต่งสวนและคอนโด ได้นำสาระพัดไอเดีย กำจัดหนูออกจากบ้าน ซึ่งมีที่มาจาก เว็ป Banidea ที่ได้นำไอเดียดีๆ มาให้ได้ชมกัน
เรื่องสืบเนื่อง มาจากเนื้อหา จากการที่มี วิธีกำจัดยุง จึงทำให้แฟนเพจบ้านไอเดียหลายๆ ท่าน ก็อยากได้วิธีกำจัดหนู และวิธีไล่หนูออกไปจากบ้าน ดังนั้นทางบ้านไอเดียก็ต้องขอยกเครดิตนี้ ให้สมาชิกแฟนเพจบ้านไอเดียอีกเช่นเคยนะครับ ที่ช่วยกันให้คำตอบมาอย่างมากมาย หลายไอเดีย ที่สำคัญ ทุกวิธีนั้น ได้ผ่านการทดสอบแล้วว่า ทำแล้วได้ผลจริงๆ ดังนั้นบ้านไอเดียจึงขอเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดความรู้ดีๆ มาให้ได้อ่านกันนะครับ
วิธีที่ 1. ใช้ลูกเหม็น
- สำหรับวิธีนี้ก็อาจจะเรียกได้ว่า เป็นวิธีที่ตั้งแต่แอดมินเกิดมาก็จำความได้เลย และก็ได้รู้จักลูกเหม็นแล้วหล่ะครับ ซึ่งหลักๆ ก็จะมีจำหน่ายทั่วไป โดยเฉพาะในตลาด จะมีขายเยอะเลยครับ ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อเลยว่า วิธีดั้งเดิมแบบนี้ ที่ใครหลายคนอาจลืมไปแล้วก็ได้ ยังคงได้คุณภาพอย่างดี
- วิธีการใช้ก็เพียงแค่ วางไว้ในตำแหน่งต่างๆ ตามซอก หรือตามตามมุม โดยเฉพาะจุดที่หนูวิ่งผ่าน กลิ่นของลูกเหม็น มันจะทำให้หนูไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก ไม่นานพวกเขาก็จำยอม และหนีหายกันไปเอง
- เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธี ที่จะใช้หลักการของกลิ่นเช่นเดียวกันกับลูกเหม็น ซึ่งตามข้อมูลบอกนั้นได้บอกไว้ว่าเป็นไม้ยี่โถ ซึ่งจะมีกลิ่นของไม้ดังกล่าว กลิ่นนี้ทำให้หนูไม่ปลื้มใจนัก แต่ว่าหลายๆ ท่านก็บอกมาว่า ไม้ไล่หนู ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาและคุณภาพแล้ว มันก็ไม่ค่อยจะคุ้มกัน เพราะว่าต้องใช้ในปริมาณที่เยอะ มันถึงจะได้ผล
- วิธีการใช้งานก็เช่นเดียวกับลูกเหม็นครับ วางไว้ตามจุดต่างๆ
** ทริปเล็กๆน้อยๆ : สำหรับการใช้ไม้ไล่หนูแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยปกติแล้ว หนูจะกลัวแมว หากบ้านไหนไม่ชอบเลี้ยงแมว แต่ว่าพอจะมีเพื่อนบ้านที่เลี้ยงแมว ให้ลองนำฉี่ แมว มาทาที่ไม้ หรือ ลองนำไม้ไปคลุกกับทรายที่แมวฉี่ใส่ เมื่อนำไปวางไว้ หนูจะคิดว่าเป็นกลิ่นของแมว หนูก็จะไม่กล้าเข้ามาเลย
วิธีที่ 3. ใช้สมุนไพรไล่หนู หรือที่หลายๆ ท่านคงจะรู้จักกันในชื่อ ลีโอแรท
- วิธีนี้เป็นสารสกัดจากสมุนไพรต่างๆ สามารถไล่หนูได้จริงๆ ทั้งยังมีให้เลือกทั้งแบบแผ่น วางเป็นจุดๆ และแบบสเปรย์ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความถนัดในการใช้งานนะครับ
- จะขอยกให้เป็นวิธีต่อเนื่องกันเลยก็แล้วกันนะครับ โดยนี่ยังเป็นอีกวิธีที่ มันยังคงได้ผลดีมาตลอด และหลายๆ ท่านนั้นก็ยังการันตีมากันด้วยว่า มันดีที่สุด เพราะว่าเป็นวิธีตามธรรมชาติ แต่ก็ขอเป็นแมวที่ใจกล้าหน่อยนะครับ โดยเฉพาะแมวบ้าน ที่จะจับหนูได้เก่งกว่าแมวพันธ์อื่นๆ ทั้งยังหามาเลี้ยงได้ง่ายด้วยครับ
- แต่ไม่ขอแนะนำวิธีนี้ สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ เพราะขนของแมว วิธีนี้จะสร้างภาระให้กับคนเลี้ยงพอสมควรเลยครับ ซึ่งแมวบางตัวก็มีนิสัยที่ไม่ดี หากท่านไม่ฝึกให้ดี ก็อาจสร้างความรำคาญได้ไม่น้อยเช่นกัน
- สำหรับการใช้วิธีนี้ จะได้ผลในระยะสั้นๆ และเหมาะสำหรับ การกำจัดพร้อมทั้งป้องกันไปด้วยในตัว และสามารถหาซื้อได้ตามตลาดทั่วไปเช่นกันครับ
- ซึ่งหลักการก็คือ นำอาหารมาล่อ เพื่อให้หนูเข้ามากิน จากนั้นกรงดักหนูมันก็จะปิดอัตโนมัติ แต่ว่าที่สำคัญ ควรหาที่ทิ้งหนูให้ได้ ทิ้งในป่าไกลจากบ้าน
- โดยที่วิธีนี้ แม้มันจะไม่ได้ฆ่าตัวหนูก็ตาม แต่ว่าก็จะเป็นการพรากมันจากครอบครัว จึงไม่ขอแนะนำให้ใช้เท่าไหร่นัก เพราะว่าหัวข้อนี้ ขอเป็นแบบไม่บาปนะครับ
- หากใช้วิธีนี้หนูส่วนใหญ่มันจะฉลาดมาก เราจะดักมันได้แค่ครั้งแรกๆ เท่านั้นเอง ครั้งต่อมา หนูจะเริ่มรู้จักกับเครื่องดักหนู ก็จะไม่เข้าไปแล้วล่ะครับ
- จะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า แบบเสียบปลั๊กเช่นเดียวกับเครื่องไล่ยุง โดยจะใช้หลักการของคลื่นความถี่ หลายคอมเม้นยืนยันว่า หนูลดลง แต่ว่าไม่ถึงกับหายไปทั้งหมด
- สำหรับวิธีนี้หลายๆคน อาจจะดูว่าเหลวไหล แต่ว่าหลายๆ บ้าน ก็ได้ทดสอบแล้ว ว่าใช้ได้จริง ตัวอย่างที่บอกไปข้างต้น ว่าหนูเป็นสัตว์ที่ฉลาดครับ ดังนั้นหลายๆ บ้านจึงลองทดสอบคุยกับหนู โดยใช้วิธีการพูด หรือลองเขียนโน๊ต
- โดยเขียนบอกว่าให้หนูย้ายไปอยู่ที่อื่น หากเราบอกกับมันดีๆ ด้วยจิตใจที่มีเมตตา เค้าก็จะไปเองครับ วิธีนี้ สำหรับแอดมินเอง ได้ยินมานานมากแล้วเหมือนกันครับ
- วิธีนี้ หลายๆ ท่านอาจจะเรียกได้ว่า นี่เป็นวิธีที่กำจัดได้ตั้งแต่ ต้นเหตุของปัญหานี้เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือการป้องกันไม่ให้หนูมาอยู่ภายในบ้าน ด้วยวิธีการดูแลบ้านให้ถูกสุขลักษณะอยู่เสมอ ไม่มีเศษอาหารสะสม ไม่ตั้งของรกรุงรัง
สำหรับหนูนั้นเป็นสัตว์ประเภทที่ต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ ถ้าหากกำจัดมุมรกๆ มุมอับ หนูก็ไม่ค่อยจะมีเส้นทางเดิน และจะไม่มีที่อยู่ ซึ่งหากเรากำจัดำพวกเศษอาหารไปแล้ว เจ้าหนูตัวปัญหาก็ย่อมไม่มีอาหาร ไม่สามารถอาศัยในบ้านของเราได้ ลิ้นชัก ตู้ ที่เก็บของใดไม่ค่อยได้เข้าใช้ หมั่นเข้าไปทำความสะอาดอยู่เสมออย่ารอให้หนูมายึดพื้นที่
ซึ่งสรุปโดยรวมๆ แล้ว ก็อาจกล่าวได้ว่า หากเราซื้อขายบ้านมาแล้ว เราก็ควรจะ ดูแลบ้านอยู่เสมอ หนูก็ยากที่จะเข้ามารบกวนครับ เป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไปใช่ไหม
** มาสรุปกันสักนิดนะครับ
โดยปกติหลักๆ แล้วสำหรับ วิธีไล่หนู แนวทางแรกใช้หลักการของกลิ่น ทั้งพืชสมุนไพร ลูกเหม็น กลิ่นแมว สารไล่หนู ซึ่งอันที่จริง มันก็ยังมีอีกหลายกลิ่นครับ อาทิเช่น น้ำมันก๊าซ แต่กลิ่นบางอย่าง อย่าว่าแต่หนูเลยคนก็ยังทนอยู่ไม่ค่อยได้โดยเฉพาะเวลาใช้น้ำมันก๊าช
สำหรับแนวทางที่ 2 เราจะเน้นความเป็นธรรมชาติจัดการด้วยวงจรชีวิตของสัตว์ โดยจะให้สัตว์มันกำจัดกันเอง เช่น แมวไล่หนู หรือว่า บางบ้านก็อาจจะใช้วิธีนำคราบงู หรือ งูยาง มาตั้งไว้ในบ้าน เมื่อหนูเห็น เจ้าหนูมันก็จะกลัว เพราะงูบางชนิดเป็นสัตว์กินหนูด้วยครับ ตามธรรมชาติแล้ว หนูจึงกลัวงู
และแนวทางที่ 3 ก็ดูจะเป็นหลักจิตวิทยา หากต่อลองเจรจาต่อกัน แม้จะเป็นเรื่องราวที่พิสูจน์ไม่ได้อย่างชัดเจน แต่ว่าหลายๆ บ้าน ก็จะใช้เมตตาจิต มันก็จะสามารถบรรเทาปัญหาไปได้ด้วยดี
สุดท้ายแนวทางที่ 4 แนวทางนี้คิดว่าเป็นทางเลือกที่น่าจะดีที่สุด เพราะว่าเป็นการกำจัดที่ต้นตอของปัญหาเลยก็ได้ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นวิธีป้องกัน ไม่ได้เป็นเรียกว่าวิธีไล่ ใครถนัดวิธีไหน ก็ลองเลือกใช้กันตามสะดวกนะครับ หรือมีวิธีใดต้องการมาเล่าสู่กันฟัง ก็สามารถบรรยายใต้คอมเม้นด้านล่างนี้ได้เลยครับ
สวัสดีครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น