(รีวิว) เห็นเงียบๆ แต่ห้องเนี๊ยบนะจ๊ะ แต่งคอนโดเองแบบไม่ง้อช่าง

(รีวิว) เห็นเงียบๆ แต่ห้องเนี๊ยบนะจ๊ะ แต่งคอนโดเองแบบไม่ง้อช่าง

ก็ต้องขอสวัสดีก่อนนะคะ ในวันนี้จะมาแชร์ การตกแต่งห้องในคอนโดมิเนียมด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องจ้างช่างเลยค่ะ เราทำเองเงียบๆ ไม่รบกวนเพื่อนบ้าน ไม่ต้องเจาะ ไม่ต้องทุบ แต่ได้ผลลัพธ์น่าพอใจมากค่ะ

และเนื่องจากเจ้าของกระทู้ได้ซื้อคอนโดและได้ปล่อยให้เช่า ซึ่งได้ซื้อมาหลายปีแล้ว และห้องก็จะโทรมไปตามการใช้งานของผู้เช่าแต่ละคน ดังนั้นจึงถือโอกาสในขณะที่คนเก่าย้ายออก มาปรับปรุงเปลี่ยนหน้าตาห้องซะใหม่ให้น่าอยู่ขึ้นซักนิดนึง  โดยใช้ Wallpaper Sticker เป็นหลักๆ ในการตกแต่ง แทนการทาสีค่ะ

งั้นเราลองมาดูรูปห้องสำเร็จกันก่อนเพื่อเป็นกำลังใจกันก่อนนะ

ภาพนี้ใช้มือถือถ่ายแบบพาโนรามานะคะ เราไม่ได้ปรับแสงใดๆ และแดดกำลังส่อง แสงเลยสว่างจ้าไปหน่อยค่ะ

งั้นเรามาดูสภาพของห้องโดยรวมกันเลยดีกว่า มีทั้งรอยเปื้อนที่เช็ดไม่ออกบนผนังเป็นวงกว้าง และทำให้ห้องดูโทรมไม่น่าอยู่ ทั้งยังมีคราบสติกเกอร์ที่ผู้เช่าเก่าติดไว้ด้วยค่ะ

ส่วนของเคาน์เตอร์ ที่อ่างล้างจานบวมและมีรอยแตก เพราะด้วยที่ว่าเป็นไม้ไม่ทนน้ำ จากเดิมใช้แผ่นพลาสติกสีเทาปิดไว้ค่ะ มันสภาพเยินจนไม่ไหวแล้วค่ะ

มาดูอุปกรณ์ที่ใช้ในการตกแต่งคอนโดมิเนียมห้องนี้กันเลย

อย่างที่ 1. จะเป็นวอลเปเปอร์สติ๊กเกอร์

• ซึ่งอันนี้สามารถหาซื้อในเน็ตได้เลย แถมยังเสิร์จคำว่าวอลเปเปอร์สติ๊กเกอร์ จะมีมาให้เลือกหลายร้าน และเท่าที่ลองสอบถามดู ด้านคุณภาพและราคาเหมือนกันทุกร้านค่ะ ซึ่งตัวเจ้าของกระทู้เองก็ซื้อมาจาก 2 ร้าน ค่ะเพราะว่ามีลายให้เลือกต่างกัน หรือบางร้านบางลายก็ไม่มีของ อันนี้ซื้อเองไม่มีสปอนเซอร์ใด ๆ ทั้งสิ้นนะคะ 

จึงไม่ขอระบุชื่อร้านจ้าก่อนซื้อต้องวัดผนังห้องก่อนนะคะ ว่าจะติดตรงไหนบ้าง จึงจะคำนวนความยาวที่จะซื้อได้ค่ะ

อย่างที่ 2. แผ่นรองตัด

อย่างที่ 3. ไม้บรรทัด

อย่างที่ 4. คัตเตอร์

เมื่อได้อุปกรณ์มาครบ เราก็มาเริ่มทำกันเลยค่ะ

ขั้นตอนแรก เราก็ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ มาเช็ดทำความสะอาดผนังก่อนแล้วทิ้งไว้ให้แห้งซัก 1 วัน

ลองมาดูภาพแล้วเช็ดสะอาดสุดแล้วได้แค่นี้เลยจ้า

หลังจากนั้น ก็วัดขนาดความกว้างยาวของผนังแล้วตัดวอลเปเปอร์ให้เกินขนาดผนังด้านละ 2 cm.

และก็เริ่มจากข้างบนก่อน ซึ่งผนังด้านนี้เป็นด้านที่ 2 แล้วนะคะพึ่งได้ถ่ายรูป จะเห็นว่ามีคานอยู่ด้านบนด้วย เราก็ต้องตัดสติ๊กเกอร์หลบคานด้วยจ้า

หลังจากนั้นก็นำสติ๊กเกอร์ทั้งแผ่นที่ยังไม่ลอก มาทาบผนังเพื่อดูระยะ กันการติดเบี้ยว ลองไปอ่านในรีวิวของคนขาย เขาบอกสามารถติดคนเดียวได้ แต่เรามือใหม่ต้องให้คนช่วยจับ แถมยังไม่มีบันได อาศัยเหยียบบนเก้าอี้ ขอบอกว่าเหนื่อยมากค่ะ เหยียดสุดแขนเลยค่ะ

ต่อจากนั้นก็ค่อยๆ ลอกสติ๊กเกอร์ออก พร้อมทั้งใช้ผ้าแห้งสะอาดเช็ดเพื่อไล่อากาศออก ทำเรื่อยๆ จนติดสติกเกอร์เต็มผนังเลยค่ะ เมื่อทำไปได้ครึ่งทางแล้ว ถ้าติดไม่เรียบ ลอกออกแล้วใช้ผ้าเช็ดให้เรียบ ติดใหม่ได้เลยค่ะ

ลองเดินมาดูตรงเคาน์เตอร์ครัวกันบ้างนะ และเช็ดทำความสะอาดพื้นผิว และใช้พุตตี้อุดรอยแตกตามร่องไม้นะคะ ทั้งยังทิ้งไว้ให้แห้ง 1 วัน

ส่วนนี้เราก็เลือกลายอิฐสีขาวกับเคาน์เตอร์ลายไม้ โดยที่ตรงนี้พื้นที่เล็กๆ มันจะติดง่ายกว่าด้วย เพราะวัดขนาด และ ติดไปได้เลยทำคนเดียวก็ได้ง่ายจริงๆ

ถ้าหากมันเกินออกมาเราใช้ไม้บรรทัดมาทาบบนฝาผนัง แล้วก็กรีดด้วยคัตเตอร์ด้วยค่ะ

ส่วนของเคาเตอร์นี้เดิมเป็นไม้อัด ไม่ทนน้ำเท่าไหร่ เราเลือกสติกเกอร์ที่กันน้ำ และ การขีดข่วนได้ ซึ่งมันจะทนแค่ไหน ใช้แล้วจะมาบอกผลจ้า

เราจะแบ่งการติดเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ นะค่ะ

1. ตรงพื้นเคาเตอร์ด้านขวา ติดให้เลยซิงค์มาเล็กน้อย แล้วใช้คัตเตอร์ตัดตามแนวขอบซิงค์
2. ส่วนที่เป็นช่องว่างระหว่างซิงค์ ตัดเป็นกรอบสี่เหลี่ยม3ด้าน หรือตัว c เหลี่ยมๆ

ส่วนที่ติดพื้นเหลือ ก็ตัดขอบมุมที่เกินออกเหมือนเดิมเลยค่ะ

สำหรับความแตกต่างที่พบของวอลเปเปอร์แบบมีลายคือ มันจะมีขนาดหนากว่าแบบสีพื้นนิดนึง และมี Texture เสมือนจริง แต่ว่ากาวไม่เหนียวเท่าแบบสีพื้น คือลอกออกได้ง่ายๆ เลยค่ะ

สรุปงบประมาณ

1. เลือกซื้อวอลเปเปอร์สติกเกอร์ 17เมตร งบประมาณ 3,800 บาท
2. เลือกซื้อของตกแต่ง งบประมาณ 600 บาท
3. ต่อจากนั้นเปลี่ยนสีผ้าหุ้มโซฟา งบประมาณ 6,500 บาท ส่วนของวอลเปเปอร์ยังเหลืออีกหลายเมตรนะคะ เพราะเราวัดมาเกินด้วย

และผลงานก็ออกมาสำเร็จด้วยดีค่า

ที่มา MARIRUB

จากนั้นเราก็ติดกรอบรูป และแบบที่มันไม่เจาะผนังด้วยค่ะ โดยกรอบรูปที่เราซื้อมาจากที่ IKEA ติดด้วยกาวสองหน้า และจะใส่รูปไม่ได้นะคะ ติดเก๋ๆ ฮ่าๆๆ

ทั้งนี้ยังได้เพิ่มของตกแต่ง นาฬิกา กรอบรูป เปลี่ยนเป็นม่านสีขาว และม่านเดิมของโครงการ เปลี่ยนสีผ้าหุ้มโซฟา

แต่งไปแต่งมาจนห้องดูน่าอยู่ขึ้นมากเลยค่ะปิดท้ายด้วยรูปนี้ค่ะ